ยาน้ำเชื่อมแก้ไอ

พ่อแม่อินโดนีเซีย ฟ้องเอาผิดกับทางการ หลังใช้ยาน้ำเชื่อมแก้ไอ จนลูกเสียชีวิต

รายละเอียดเบื้องต้นนั้น เกิดจากหนูน้อยนาดีรา ล้มป่วย ด้วยอาการไข้หวัดใหญ่ และมีอาการไอ จนทำให้ แม่ หรือนางอากุสตินา มาอูลานี ได้ออกไปรับ ยาน้ำเชื่อมแก้ไอ จากศูนย์อนามัยแห่งหนึ่ง ในกรุงจาการ์ตา โดยตัวยานี้ มีส่วนผสมของ พาราเซตามอล แม่ของเด็กได้ระบุเอาาไว้ว่า “ได้ทำการป้อนยาให้ลูกกิน ทุกๆ 4 ชั่วโมง เนื่องด้วยอาการไข้ของลูก ไม่ได้ลดลง แต่สุดท้ายลูกก็หยุถ่ายปัสสาวะ”

จากนั้นไม่กี่อึดใจ หนูน้อยนาดีรา ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในไม่ช้า แต่อาการก็ยังคงไม่ดีขึ้น และผลตรวจค่าไต ได้ออกมาโดยระบุว่า เธอมีระดับสาระครีอาตินีน และสารยูเรียสูงเกินค่ามาตรฐาน โดยทั้งสองสารนี้ เป็นของเสียที่สะสมในร่างกาย เมื่อไตหยุดทำงาน “และในที่สุด ลูกของฉันก็ได้เสียชีวิตลง ในระยะเวลาอันสั้น และเจ็บปวดทรมานก่อนสิ้นใจ” นาง อากุสตินา กล่าว

อินโดนีเซียกำลังเผชิญคลื่นการเสียชีวิตที่น่าตกใจของเด็กอย่างน้อย 157 คน ที่เสียชีวิตไปในปีนี้ด้วยภาวะไตวายเฉียบพลัน (acute kidney injury) และภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ โดยเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการใช้ยาที่มีสารปนเปื้อน โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุไม่ถึง 5 ขวบ

ยาน้ำเชื่อมแก้ไอ

หนูน้อยนาดีราเสียชีวิตในเดือน ส.ค. ต่อมาในเดือน ต.ค.

ทางการอินโดนีเซียระบุว่าเธอคือหนึ่งในเด็กที่เสียชีวิตจากความผิดปกติทางไตที่ไม่สามารถอธิบายได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้รัฐบาลอินโดนีเซียสั่งห้ามจำหน่ายยาน้ำทุกชนิด แต่ในเวลาต่อมาได้จำกัดการห้ามขายผลิตภัณฑ์ราว 100 ชนิด ซึ่งเป็นชนิดที่พบอยู่ตามบ้านของเด็กที่ล้มป่วยและเสียชีวิต

บรรดาร้านขายยาทั่วอินโดนีเซียต่างเก็บผลิตภัณฑ์เหล่านี้ออกจากชั้นจำหน่ายสินค้า พร้อมแนะนำให้พ่อแม่ผู้ปกครองบดยาเม็ดให้ลูกหลานที่ล้มป่วยและจำเป็นต้องกินยา นายบูดี กุนาดี ซาดีคิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียระบุว่า จากการตรวจสอบเด็กที่เสียชีวิตกลุ่มนี้พบว่าร่างกายมีสารอันตราย เช่น เอทิลีนไกลคอล, ไดเอทิลีนไกลคอล และเอทิลีนไกลคอล บิวทิว อีเทอร์

สารไดเอทิลีนไกลคอล และเอทิลีนไกลคอลนั้น มักใช้เป็นส่วนผสมของสารป้องกันการเกิดน้ำแข็งในเครื่องปรับอากาศ และตู้เย็น รวมทั้งเป็นตัวทำละลายในผลิตภัณฑ์หลายชนิด เช่น เครื่องสำอาง แต่เป็นการใช้ในระดับความเข้มข้นที่ต่ำมาก องค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) ระบุว่า ต้องไม่นำสารเหล่านี้มาใช้เป็นส่วนผสมในยา

นายซาดีคิน ระบุว่า “มีการยืนยันว่า สารเหล่านี้ทำให้เกิด (ภาวะไตวายเฉียบพลัน)”

กรณีที่พบในอินโดนีเซียเกิดขึ้น หลังจากมีรายงานการเสียชีวิตของเด็กเกือบ 70 คนในประเทศแกมเบีย โดย WHO ระบุว่า ตรวจพบปริมาณที่สูงเกินจะยอมรับได้ของสารไดเอทิลีนไกลคอล และเอทิลีนไกลคอลในยาน้ำเชื่อมแก้ไอผลิตในอินเดียที่ส่งไปขายในแกมเบีย ขณะนี้ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่ากรณีที่เกิดขึ้นใน 2 ประเทศมีความเกี่ยวข้องกัน

โดยทางการอินเดียและบริษัทไมเดนฟาร์มาซูติคอลส์ ระบุว่ายาน้ำเชื่อมแก้ไอ 4 ชนิดที่มีปัญหานั้นส่งไปจำหน่ายที่แกมเบียเพียงประเทศเดียว ขณะที่ทางการอินโดนีเซียระบุว่า ยาน้ำเชื่อมแก้ไอที่วางขายในประเทศไม่ได้นำเข้าจากอินเดีย เมื่อ 24 ต.ค. สำนักงานอาหารและยาของอินโดนีเซีย หรือ BPOM ระบุว่าจะสอบสวนบริษัทผู้ผลิตยา 2 แห่ง ที่เพิ่งเปลี่ยนผู้จัดหาสินค้าที่ใช้เป็นวัตถุดิบผลิตยา

จากเดิมคือบริษัทผู้จัดหา สินค้าด้านเวชภัณฑ์มาเป็นผู้จัดหาสินค้าด้านเคมีภัณฑ์ ขณะนี้อินโดนีเซียมีเด็กที่เข้ารักษาอาการไตวายเฉียบพลันหลายสิบคน และได้ร้องขอความช่วยเหลือจากสิงคโปร์และออสเตรเลียให้ช่วยจัดส่งยาต้านพิษหายากที่เรียกว่า “โฟมีพิโซล” (fomepizole) เพื่อใช้รักษาเด็กเหล่านี้

โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นสร้างความตกตะลึงให้อินโดนีเซีย โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้ตรวจการแผ่นดินอินโดนีเซียได้วิพากษ์วิจารณ์กระทรวงสาธารณสุขและ BPOM ว่าดำเนินมาตรการไม่เพียงพอในการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ยาที่วางจำหน่ายในท้องตลาดว่ามีมาตรฐานตามที่กำหนดไว้หรือไม่ ศาสตราจารย์ เอริก ชาน

จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า รู้สึกประหลาดใจที่ยังคงได้ยินข่าวการเสียชีวิตลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง และบรรยายสิ่งที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซียว่า “มหันตภัยต่อมวลมนุษย์” เขาระบุว่า ในอดีตมีการใช้สารไดเอทิลีนไกลคอลเพื่อทำให้ยามีรสชาติหวานขึ้น แต่ก็เป็นสารที่มีพิษ

ศ. ชาน อธิบายว่า เมื่อไดเอทิลีนไกลคอลเข้าสู่ร่างกายก็จะทำให้เกิดกรดไกลโคลิคสะสม และทำลายเซลล์ในไต ซึ่งจะทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาได้ทันท่วงที และการถ่ายปัสสาวะลดลงคือสัญญาณเบื้องต้นที่บ่งชี้ถึงภาวะไตวาย เขาบอกว่า การพบกรณีนี้เกิดขึ้นทั่วประเทศอินโดนีเซีย บ่งชี้ว่าบริษัทผลิตยามีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่กว้างขวาง

ขณะที่เจ้าหน้าที่การแพทย์ตามสถานพยาบาลท้องถิ่นอาจไม่คุ้นเคยกับการรับมือผู้ป่วยที่ได้รับสารพิษ ดังจะเห็นได้จากการที่เด็กถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลหนึ่งไปรักษาที่อีกโรงพยาบาลหนึ่ง พร้อมเตือนว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้น

ขอบคุณแหล่งที่มา : bbc.com

สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : home-suitehome.com